MENU
Home > Articles > เมื่อคราฟท์เบียร์และสุราชุมชน ปรากฎตัวในรูปแบบของกลิ่นหอม…
เมื่อคราฟท์เบียร์และสุราชุมชน ปรากฎตัวในรูปแบบของกลิ่นหอม…
29 December 2023, 14:42
เมื่อคราฟท์เบียร์และสุราชุมชน ปรากฎตัวในรูปแบบของกลิ่นหอม…

Thai Local Spirits x SIAM1928

ในช่วงปลายปี 2023 เป็นปีที่ SIAM1928 แบรนด์น้ำหอมที่แตกแบรนด์ออกมาจากแบรนด์ น้ำอบปรุงเจ้าคุณ หรือ Traditional Thai Fragrance หรือ แบรนด์น้ำปรุงเก่าแก่ที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2471 (ค.ศ. 1928) ด้วยความสนใจและรักในศิลปะของไทยจึงได้มีการตัดสินใจที่จะ Collaboration กับ Group B Beer และ Thai Local Spirits ถึง 3 แบรนด์ ที่มีจุดเด่นด้านกลิ่นที่น่าสนใจ ที่สามารถมารังสรรค์เป็นกลิ่นน้ำหอมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เพื่อสร้าง Soft Power ให้คนไทยและต่างชาติได้รู้จักกับสินค้าและศิลปะของไทยมากขึ้น 

Yodbeer

 

Bearnana เบียร์ Signature จากแบรนด์ Yodbeer เป็นเบียร์ Witbier ที่สร้างสรรค์จากการผสมผสานของ Malt, Hops, Yeast, Orange peel, Coriander seeds และส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์ของเบียร์ Bearnana ก็คือกล้วยตาก (Sun-dried Bananas) ที่ถูกใช้ในระหว่างขั้นตอนการผลิตเบียร์ กล้วยตากจะถูกนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และใช้เป็นวัตถุดิบในช่วงต้นของการผลิตเบียร์ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมของกล้วยตาก หลังจากการหมักเบียร์เป็นเวลา 10 วัน จะมีการใส่กล้วยตากเพิ่มเติมลงในเบียร์เพื่อดึงรสชาติของกล้วยที่แตกต่างออกไป ส่งผลให้เบียร์มีกลิ่นหอมชวนให้นึกถึงคาราเมล ช๊อกโกแลต น้ำผึ้ง และกลิ่นกล้วยตากอันเป็นเอกลักษณ์

 

แรงบันดาลใจของ Yodbeer เริ่มต้นขึ้นในปี 2015 เมื่อพวกเขาเริ่มต้นการเดินทางด้านการผลิตเบียร์ และยึดมั่นในความเป็นแบรนด์ไทยอย่างมั่นคง วิสัยทัศน์ของเขาคือการใส่องค์ประกอบของความเป็นไทยเข้าไปในเบียร์ โดยเริ่มจากสิ่งที่อยู่รอบตัว และค้นพบว่ากล้วยตากนั้นเข้ากันได้ดีกับ Witbier ของพวกเขา และเป็นของว่างที่คนไทยก็คุ้นเคยกันดี นี่คือเหตุผลที่ Yodbeer เลือกที่จะใช้แก่นแท้ของวัตถุดิบที่พิเศษนี้ เพื่อสร้างเบียร์ที่ไม่เหมือนใครและมีเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างที่สุด

 

Yodbeer เป็นน้ำหอมที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Bearnana โดยตรง เราสร้างกลิ่น Sun-dried Bananas(กล้วยตาก) ขึ้นมา เป็นกล้วยที่มีกลิ่นที่ Fruity และ Creamy แทรกไปด้วยกลิ่นหวานติดไหม้เล็กๆ ของ Caramel และมี Hint ของ Chocolate อ่อนๆ ซึ่งเข้ากับได้ดีกับกลิ่น Malt ที่เติมความฝาดด้วย Hop Co2 เพื่อให้กลิ่นมีมิติมากขึ้น เสริมด้วย Coriender Seed, Orange Peel เพื่อให้กลิ่นเข้ากับโจทย์ “เบียร์ที่มาจากกล้วยตาก” มากยิ่งขึ้น

Sandport

 

เบียร์ “Wheat off the Wall” หนึ่งใน Signature ของ Sandport Brewing Co. เป็น Wheat IPA ที่มีเอกลักษณ์ มีความสดชื่น มีส่วนผสมหลัก ได้แก่ Barley, Wheat, Oat, Orange, Hop และ Yeast ที่มาจากอเมริกา

 

สิ่งที่ทำให้ ‘Wheat off the Wall’ แตกต่างออกไปคือการผสมผสานกันอย่างลงตัวของเบียร์ยอดนิยม สองสไตล์ ได้แก่ Witbier (นำเสนอ Grains) และ IPA (นำเสนอ Hop และ Yeast) พร้อมด้วยการเติมเปลือกส้มเพื่อเพิ่มความสดชื่น เบียร์ชนิดนี้มีรูปลักษณ์ของ Witbier Beer ในขณะที่ให้กลิ่นหอมและรสชาติที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของ IPA ความโดดเด่นของเบียร์นี้คือการออกนอกกรอบจากขอบเขตเบียร์แบบดั้งเดิมอย่างกล้าหาญ นำเสนอรสชาติที่สดใหม่และแหวกแนว สมกับชื่อ ‘Off the Wall’ อย่างแท้จริง

 

Sandport เป็นน้ำหอมที่เราดึงเอกลักษณ์ของกลิ่นเบียร์ “Wheat off the wall” โดยการให้ Hop CO2 เป็นโน้ตหลัก ซึ่งเป็นกลิ่นโทน Woody,Ambery ที่มีความ Herbal เฉพาะตัวมาเป็นพระเอกหลัก แต่งเติมความสดชื่นด้วยด้วย Orange และ Grapefruit ยังคงมี เสริมกับความ Fruity ฉ่ำๆ ของ Passion Fruit องค์ประกอบทั้งหมดถูกวางลงบน Body หลักในกลิ่น Wheat ที่ถูกเสริมฐานให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย Vetiver และ Patchouli

Red Jungle

 

Red Jungle เป็นสุรากลั่นในสไตล์ Grappa หรือบรั่นดีกากองุ่นที่มีกลิ่นหอม มีต้นกำเนิดในประเทศอิตาลี โดย GranMonte เป็นผู้เริ่มต้นในการผลิตสุรากลั่นชนิดนี้ขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดย GranMonte มีความตั้งใจที่จะผลิตสินค้าแบบ Zero Waste โดยใช้เปลือกองุ่นจากการทำไวน์ ที่บีบน้ำไวน์ออกแล้วมากลั่นจนเกิดเป็นสุรากลั่น Red Jungle ที่ให้สัมผัสที่นุ่มและร้อนแรง

 

สุรากลั่นนี้มาพร้อมกับชื่อ “Red Jungle” ที่มีความหมายว่า “ดงพญาไฟ” ซึ่งเป็นชื่อดั้งเดิมของถิ่นเขาใหญ่ บ่งบอกถึงสถานที่ของ GranMonte Vineyard and Winery ผู้ผลิตไวน์ที่ปลูกและผลิตในไทย 100% ชั้นนำ ใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

 

ด้วยไอเดียที่ได้เรียนรู้การผลิตสุรากลั่นในสไตล์ Grappa ทำให้เราได้ลงลึกไปถึงกลิ่นและรสชาติของสายพันธ์องุ่นที่ GranMonte เป็นผู้ปลูกและผลิตเป็นไวน์ รสชาติไวน์หลายๆ กลิ่นนั้นมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสายพันธ์ขององุ่น แต่ส่วนหนึ่งที่เราสามารถสัมผัสได้จาก Red Jungle คือกลิ่นที่มีความคล้ายกับ Oakwood ที่ให้ความ Smoke และกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกับ Vanilla โดยไม่ได้นำ Red Jungle นี้ไปหมักใน Barrel ทั้งสองกลิ่นนี้จะอยู่ภายใต้กลิ่นของ Dried fruits และ Raisins ที่เกิดจาก กากองุ่นหลังการทำไวน์

 

Red Jungle ถูกสร้างขึ้นมาด้วยแรงบันดาลใจที่เราได้รับประสบการณ์จากการชิมเป็นหลัก เรานำประสบการรับรสและกลิ่นของเรานำมาแปลงออกมาเป็น Accord Grappa (Italian Brandy) ที่มีคุณสมบัติเหล้าที่กลั่นจากองุ่นครบถ้วน เสริมด้วย Dried Fruit และ Raisin เพื่อช่วยเติมความหวานแบบ Undertone และใช้ Oakwood เพื่อเติมความ Smoky อ่อนๆ ที่เข้ากันได้ดีกับ Vanilla เสริมด้วย Sandalwood ที่ทำให้กลิ่นนวลเนียนยิ่งขึ้น และเติมความอบอุ่นให้สมกับเป็นบรั่นดีด้วย Tonka Bean และ Cedarwood โดยพยายามทำให้เนื้อกลิ่นออกไปทาง โปร่งๆ และ ไม่หวาน ให้เหมือนกับกลิ่นและรสชาติของ Red Jungle จริงๆ

 

Spread the word!
beer article
ข่าวสารวงการเบียร์
เมื่อคราฟท์เบียร์และสุราชุมชน ปรากฎตัวในรูปแบบของกลิ่นหอม…
เมื่อคราฟท์เบียร์และสุราชุมชน ปรากฎตัวในรูปแบบของกลิ่นหอม…
view more...
คราฟต์เบียร์ไทยกับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
คราฟต์เบียร์ไทยกับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
view more...
Sour City Beer Project – โปรเจ็คเดินทางตามหาความเปรี้ยว
Sour City Beer Project – โปรเจ็คเดินทางตามหาความเปรี้ยว
view more...
THAI CRAFT BEER WEEK 2023 ตุลาคมนี้ อย่าตกขบวน!
THAI CRAFT BEER WEEK 2023 ตุลาคมนี้ อย่าตกขบวน!
view more...
คราฟท์เบียร์ คืออะไร
คราฟท์เบียร์ คืออะไร
view more...
Mojito Cider : เธอกับรสชาติแห่งฤดูร้อน
Mojito Cider : เธอกับรสชาติแห่งฤดูร้อน
view more...